เปรียบเทียบ Toyota Corolla Cross vs Toyota C-HR รถอเนกประสงค์ขนาดเล็กในพิกัด B-SUV คันไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด?
Toyota ได้เปิดตัว Corolla Cross ออกมาทำตลาดในกลุ่ม B-SUV เพื่อตีตลาดคนที่อยากได้รถที่มีตัวถังใหญ่ขึ้นมาจากรถเก๋ง C-Segment
แม้ Corolla Cross จะอยู่ในพิกัดเดียวกับ Toyota C-HR แต่ก็จะแยกกลุ่มลูกค้ากัน โดยคนที่อยากได้รถที่มีพื้นที่ใช้สอยมากก็เลือก Corolla Cross นั่นเอง
วันนี้เราจึงนำรถคันนี้มาเทียบกับ Toyota C-HR เพื่อมาดูกันว่ารถต่างกันอย่างไรบ้าง
เปรียบเทียบราคา
Toyota Corolla Cross
– 1.8 Sport ราคา 959,000 บาท (ราคาพิเศษถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 ก่อนจะปรับขึ้นเป็น 989,000 บาท)
– 1.8 Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท
– 1.8 Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท
– 1.8 Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท
Toyota C-HR
– รุ่น 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท
– รุ่น 1.8 Mid ราคา 1,039,000 บาท
– รุ่น 1.8 Hybrid HV Mid ราคา 1,069,000 บาท
– รุ่น 1.8 Hybrid HV Hi ราคา 1,159,000 บาท
ข้อมูลทางเทคนิคเบื้องต้น
Toyota Corolla Cross
มิติตัวถัง : 4,460 x 1,825 x 1,620 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร
ช่วงล่างด้านหน้า : แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ช่วงล่างด้านหลัง : ทอร์ชั่นทีม พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรกด้านหน้า : ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบเบรกด้านหลัง : ดิสก์เบรก
Toyota C-HR
มิติตัวถัง : 4,360 x 1,795 x 1,565 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) ฐานล้อ 2,640 มม.
ช่วงล่างด้านหน้า : อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ช่วงล่างด้านหลัง : อิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรกด้านหน้า : ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบเบรกด้านหลัง : ดิสก์เบรก
เปรียบเทียบภายนอก
Toyota Corolla Cross
Toyota C-HR
Toyota Corolla Cross
Toyota C-HR
เปรียบเทียบภายใน
Toyota Corolla Cross
Toyota C-HR
Toyota Corolla Cross
Toyota C-HR
Toyota Corolla Cross
Toyota C-HR
Toyota Corolla Cross
Toyota C-HR
Toyota Corolla Cross
Toyota C-HR
เปรียบเทียบเครื่องยนต์
Toyota Corolla Cross และ C-HR ใช้เครื่องยนต์สเปคเดียวกัน
เบนซิน 1.8
เครื่องเบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FBE ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบนาที แรงบิดสูงสุด 177 ที่ 4,000 รอบนาที
ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 47 ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E85
เบนซิน 1.8 ไฮบริด
เครื่องเบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FXE กำลังสูงสุด 98 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที
ทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง 53 กิโลวัตต์ แรงบิด 163 นิวตัน-เมตร แบตเตอรีนิกเกิลเมทัลไฮดราย ความจุ 6.5 แอมแปร์ ต่อ 3 ชั่วโมง
เครื่องยนต์และมอเตอร์ทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า (PS)
ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20
เปรียบเทียบระบบความบันเทิง
Toyota Corolla Cross
– จอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth และ USB
– รองรับ Apple CarPlay
– ระบบโทรออกด้วยเสียง
– ระบบ T-Connect TELEMATICS
– ลำโพง 6 ตำแหน่ง
– ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
– ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่พวงมาลัย
Toyota C-HR
– ระบบเครื่องเสียง DVD จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB/HDMI/Micro SD Card
– ระบบนำทาง Navigator
– ระบบ T-Connect TELEMATICS
– ระบบเชื่อมต่อด้วย Bluetooth
– ลำโพง 6 ตำแหน่ง
– ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่พวงมาลัย
เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย
Toyota Corolla Cross (รุ่นท็อป)
– ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
– ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
– ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
– ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC
– ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน
– สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS 7 ตำแหน่ง คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านด้านข้าง และ หัวเข่าฝั่งคนขับ
– จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control แบบ Dynamic Radar Cruise Control
– สัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS
– ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
– ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
– ระบบแจ้งเตือนลมยาง
– ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง
– ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ
– กล้องมองรอบคัน พร้อมมุมมองแบบ 3D View
– ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
– ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
– ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
Toyota C-HR
– ระบบป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock Brake System)
– ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
– ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
– ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
– ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control)
– ไฟตัดหมอกหน้า
– ไฟตัดหมอกหลัง
– เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
– เข็มขัดนิรภัยด้านหลังELR 3 จุด 3 ที่นั่ง
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS (คู่หน้า/ด้านข้าง/ม่านด้านข้าง/หัวเข่าฝั่งคนขับ)
– จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISO-FIX and Top Tether)
– กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
– ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
– ระบบแจ้งเตือนลมยาง (TPMS)
– สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า ท้าย และที่มุมกันชน 8 จุด
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
– สัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS
– ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
– ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
– ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
– ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) พร้อมระบบ Dynamic Radar Cruise Control
– ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beams)
– ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist)
– ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่
ทั้งนี้ นอกจากสเปกบนหน้ากระดาษแล้ว การได้ไปลองขับขี่ก็จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นว่ารถคันไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด
หากใครที่ยังลังเลระหว่างสองรุ่นนี้ก็อย่าลืมที่จะติดตามศูนย์จำหน่ายของทั้งสองยี่ห้อใกล้บ้านท่านเพื่อขอข้อมูลและทดลองขับกันได้เลยครับ…